Theory ทฤษฎีดนตรี

หนังสือเตรียมสอบ Theory of Music วิชาทฤษฎีดนตรี เหมาะสำหรับนักเรียนที่กำลังเรียนดนตรี (ทุกเครื่องดนตรี) โดยลักษณะหนังสือเป็น Workbook หรือหนังสือแบบฝึกหัด ซึ่งจะมีคำอธิบายแต่ละช่วงอย่างละเอียด และค่อยเป็นค่อยไป พร้อมตัวอย่างข้อสอบในเล่ม

ระดับของแต่ละเกรด (จาก Theory of Music Syllabus) 

ระดับพื้นฐาน (Foundation Level: Grades 1-3)

สำหรับระดับเกรด 1 ผู้สอบควรสามารถเขียนโน้ตบนโน้ตห้าเส้นได้อย่างถูกต้องและประณีตตามธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปเพื่อให้สื่อสารได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้แล้วผู้สอบยังควรเข้าใจ ostinato ตลอดจนบันไดเสียงเมเจอร์ ไมเนอร์ อาร์เพจจิโอ รวมทั้งขั้นคู่เสียง และคอร์ด tonic ของคีย์พื้นฐานต่าง ๆ โดยต้องเข้าใจถึงการใช้เลขโรมันและสัญลักษณ์คอร์ดที่แสดงถึงคอร์ด tonic ส่วนในด้านจังหวะ ผู้สอบต้องเข้าใจอัตราจังหวะ ลักษณะจังหวะและการเขียนโน้ตที่มีค่าต่าง ๆ กันเพื่อแทนจังหวะสั้นยาว รวมทั้งยังต้องเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติการจัดกลุ่มตัวโน้ตในอัตราจังหวะแบบ simple time อีกด้วย ในด้านความรู้ทางดนตรี ผู้สอบควรเข้าใจคำศัพท์ทางดนตรีพื้นฐานภาษาอังกฤษและอิตาเลียน และต้องสามารถประยุกต์ความรู้เหล่านี้มาใช้ในการเขียนและเติมตัวโน้ตให้ถูกต้องในแต่ละห้องเพลง หรือจับจุดผิดและแก้ไขข้อผิดพลาดของโน้ตเพลง ตลอดจนทำการวิเคราะห์บทเพลงอย่างง่ายได้

สำหรับเกรด 2 และ 3 ผู้สอบ ควรรู้จักตัวโน้ตและสามารถเขียนโน้ตได้มากขึ้นทั้งใน trebel staff และ bass staff และสามารถเขียน sequences รวมทั้งบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ อาร์เพจจิโอ broken chords รวมทั้งขั้นคู่เสียงและ triad ได้ถึง 2 ชาร์ปและแฟล็ท นอกจากนี้ต้องรู้จักคอร์ด tonic และ dominant (ทั้งที่เขียนด้วยตัวเลขโรมันและสัญลักษณ์คอร์ด) และต้องสามารถทำการ transpose ขึ้นลง 1 octave (ทั้งใน clef เดียวกันและต่างกัน) มีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ทางดนตรีภาษาอังกฤษและอิตาเลียนในระดับหนึ่ง เข้าใจถึง ระดับความกว้างของเสียงร้อง ตลอดจนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องดนตรีบางประเภท (ในแง่ตระกูลเครื่องดนตรีและระดับความกว้างของช่วงเสียงที่เครื่องดนตรีนั้น ๆ เล่นได้) ผู้สอบควรจะเขียนตัวโน้ตและเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและประณีตชัดเจน รวมทั้งยังสามารถเติมโน้ตในห้องเพลงและการแก้ไขข้อผิดพลาดของห้องเพลงโดยใช้ความเข้าใจค่าของตัวโน้ตทั้งแบบ simple และ compound ตลอดจนวิเคราะห์บทเพลงได้

ระดับกลาง (Intermediate Level: Grades 4-5)

ในระดับกลาง ผู้สอบควรสามารถนำความรู้ ทักษะทางดนตรี และความเข้าใจทฤษฎี มาประยุกต์ใช้ในการประพันธ์เพลงขั้นพื้นฐานได้ (เช่น กำหนดจังหวะให้แก่เนื้อร้อง และใส่ harmony ให้คอร์ดในเพลงสำหรับเสียงร้อง SATB) ผู้สอบจะต้องเข้าใจถึงคอร์ด supertonic, subdominant, dominant seventh (ทั้งที่เขียนด้วยตัวเลขโรมันหรือเขียนเป็นสัญลักษณ์คอร์ด) ต้องสามารถเขียนทำนองหรือท่อนเบสสำหรับ chord progression หรือท่อนการเดินคอร์ดที่กำหนด โดยมีความเข้าใจกฎเกี่ยวกับการขนานคู่ห้าหรือคู่แปด ต้องมีความสามารถในการ transpose และบอกลักษณะโครงสร้างเพลงและ cadence นอกจากนี้ยังต้องมีความสามารถในการอ่านและเขียนโน้ตใน alto clef และ tenor clef ต้องมีความเข้าใจระดับความกว้างของเสียงร้องและรู้จักเครื่องดนตรีมากขึ้น (ในแง่ตระกูลเครื่องดนตรีและระดับความกว้างของช่วงเสียงที่เครื่องดนตรีนั้น ๆ เล่นได้) ผู้สอบในระดับนี้ควรจะสามารถเขียนโน้ตได้ถูกตามธรรมเนียมปฏิบัติ และต้องประยุกต์ความรู้เพื่อใช้ในการเขียนและแก้ไขโโน้ตในห้องเพลง ตลอดจนสามารถวิเคราะห์บทเพลงที่ยาวขึ้นได้

ระดับสูง (Advanced Level: Grades 6-8)

ในระดับสูง ผู้สอบควรมีความสามารถในการนำความรู้ ทักษะ และความเข้าใจทางทฤษฎีมาประยุกต์ในการวิเคราะห์บทเพลงในยุคบาโรค (เกรด 6) บาโรคและคลาสสิก (เกรด 7) และบาโรค คลาสสิกและโรแมนติก (เกรด 8) โดยควรมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างเพลงลักษณะต่าง ๆ (รวมทั้ง folk ballads) การเรียบเรียงดนตรีให้เครื่องดนตรีต่าง ๆ texture ของเพลง ตลอดจนการเรียบเรียงดนตรีให้วงออเคสตราตามธรรมเนียมในแต่ละยุคสมัย นอกจากนี้ยังต้องมีความเข้าใจช่วงกว้างของเสียงและลักษณะเด่นของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ตลอดจนเรียบเรียงหรือเขียนโน้ตสำหรับเครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้ถูกต้อง (อาทิ ผ่านการ transpose หรือการบรรยาย)

นอกจากนี้แล้ว ผู้สอบระดับนี้ยังต้องเข้าใจการเปลี่ยนคีย์หรือ modulation และสามารถเขียนการเปลี่ยนคีย์หรือบ่งบอกวิธีที่ผู้ประพันธ์ใช้ในการเปลี่ยนจากคีย์หนึ่งไปอีกคีย์หนึ่ง ต้องเข้าใจ chromatic chords และ secondary sevenths และสามารถ harmonise ท่อนเพลงประเภท hymn หรือ chorale ในสไตล์ของบาคได้

นอกจากนี้ผู้สอบยังควรสามารถประพันธ์ท่อนเพลงทั้งแบบ diatonic และ non-diatonic (รวมทั้งแบบ serial ในระดับเกรด 8) ตลอดจนเขียนโน้ต 12-bar blues และท่อนเล่นประกอบสำหรับเปียโนได้ ในระดับสูง ผู้สอบควรจะมีความเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติในการบันทึกดนตรีเป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในงานประพันธ์ของตนเอง รวมทั้งตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้ดนตรีต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ระดับปริญญา (Diplomas: AMus & LMus)

สำหรับการสอบระดับปริญญาทางทฤษฎีดนตรี แบ่งเป็นระดับอนุปริญญา หรือ AMus และระดับเทียบเท่าปริญญาตรี หรือ LMus โดยผู้สอบสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคู่มือการสอบระดับปริญญา หากต้องการสั่งซื้อ Study Guide และตัวอย่างข้อสอบระดับ AMus & LMus กรุณาติดต่อที่ศูนย์สอบโดยตรง